ขณะที่ประเภทคู่ นักเทนนิสไทยผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศได้ครบถ้วน โดยชายคู่ รอบแรก (สาย 16 คู่) วิชยา ตรงเจริญชัยกุล และ ยุทธนา เจริญผล คู่มือวาง 4 เฉือนชนะ บัน เคนนี่ และ เหล็ง ซารินริช (กัมพูชา) 7-6(7), 4-6 และซูเปอร์ไทเบรก 10-4ปาร์ก ฮังซอ เฮดโค้ชเวียดนาม กล่าวว่า เป็นความหวังของแฟนบอลทั้งประเทศที่ต้องการได้เหรียญทอง ดังนั้นจะทำให้ผู้เล่นรู้สึกกดดันอย่างมาก แต่จะพยายามทำออกมาให้ดีที่สุด ทีมไทยเป็นทีมที่ดี ยิงได้ 13 เสียแค่ 2 ประตู ซึ่งประตูที่เสียมาจากเกมแรกที่เหลือ 10 คนด้วย เท่ากับว่าทีมไทยมีเกมรับที่ดี ต้องหาจุดอ่อนของไทยให้ได้และเตรียมทีมให้ดีที่สุด ฟุตบอลมันบอกไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นใน 90 นาที แต่ต้องมีสมาธิและทำผลงานให้ดีที่สุดผู้สื่อข่าวถามถึงสถิติที่เวียดนามไม่ชนะไทยในซีเกมส์นั้น โค้ชชาวเกาหลีใต้ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องในอดีต เพราะตัวเองก็ไม่ได้คุมทีมนั้น และผู้เล่นก็ไม่ได้อยู่ในทีมชุดนั้นด้วย เมื่อเราลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศมันจะมีความกดดัน ต้องก้าวข้ามความกดดันนี้ให้ได้ เพราะสุดท้ายอดีตก็คืออดีต
“นอกจากนี้ก็อยากฝากให้พี่น้องชาวไทยร่วมกันเชียร์เกมฟุตบอลชายคู่ชิงชนะที่ทีมชาติไทยจะพบกับเจ้าภาพเวียดนาม น่าจะเป็นฟุตบอลคู่ที่สนุกมากๆ มีศักดิ์ศรีค้ำคอกันอยู่ทั้งคู่ และเวียดนามเขาเองก็อยากที่จะล้างตาเราจากที่เคยแพ้เราไปในรายการชิงแชมป์อาเซียนล่าสุด ดังนั้นกำลังใจจากพ่อแม่พี่น้องในประเทศจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ล่าสุดผมก็ได้หารือกับทางท่านผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ในการที่จะผลักดันเรื่องของการเชียร์กีฬา โดยเฉพาะเพลงเชียร์กีฬาของไทยเราตั้งแต่สมัยเด็กๆ อย่างเพลงกีฬาเป็นยาวิเศษ (กราวกีฬา) มีแผนการที่จะหารือกับทางกระทรวงศึกษาธิการในการที่จะนำเอาเพลงนี้เข้าไปอยู่ในแผนการเรียนการสอนของสถาบันการศึกษาในประเทศไทยด้วย” รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าว
โดยทางสหพันธ์ได้โพสต์ว่า การที่บิววิ่งได้ 20.37 วินาที ในประเภท 200 เมตรชาย ในวัย 16 ปีนั้น สถิติของเขาเป็นรองเพียงแค่สองสุดยอดนักวิ่งระดับตำนานอย่าง ยูเซน โบลต์ และ เอร์ริยอน เจ ไนต์ตัน เท่านั้นส่วนเหรียญทองเป็นของธานห์ หวง เหวียน จากเวียดนาม สถิติ 2.25.08 ชั่วโมง และเหรียญเงิน อากุส ปราโยโก จากอินโดนีเซีย 2.25.38 ชั่วโมงทั้งนี้จากผลการแข่งขันดังกล่าวทำให้ทีมชาติไทยไม่ได้เหรียญทองในการแข่งขันมาราธอนซีเกมส์ มาเป็นเวลา 17 ปีติดต่อกัน โดยเหรียญทองมาราธอนครั้งสุดท้ายที่ไทยทำได้มาจาก บุญชู จันทรเดชะ เมื่อปี 2005
หลังจบการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ นายเพิก พึ่งปัญญา ผู้จัดการทีมมวยสากลทีมชาติไทย กล่าวว่า หลังจากจบรอบรองชิงชนะเลิศผลงานของนักชกไทยถือว่าค่อนข้างโอเค ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศทั้งหมด 6 รุ่น แบ่งเป็นชาย 4 รุ่นและหญิง 2 รุ่น ทำให้ยังอยู่ในเป้าหมายของที่เราตั้งเป้าเอาไว้ 5 เหรียญทอง ส่วนการตัดสินและการให้คะแนนของกรรมการในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าอาจจะมีค้านสายตาบ้างแต่ก็ไม่เยอะมากพอเป็นที่ยอมรับได้ความผิดเดียวของ เจนจิรา คือดันมาอยู่ในยุคเดียวกับสองนักว่ายน้ำชาวสิงคโปร์อย่าง กวาห์ ทิง เหวิน เจ้าของสถิติ 24 เหรียญทอง และ อแมนดา ริม ที่กวาดรวมไปแล้ว 11 เหรียญทอง ซึ่ง 8 เหรียญเงิน ที่เจนจิรา ทำได้ อาจจะมองว่าเป็นความสำเร็จที่มากเกินพอแล้วสำหรับนักว่ายน้ำคนหนึ่ง แต่อีกแง่มุมมันคือขีดจำกัดของตัวเองที่ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้เสียที