บุคลิกที่ดีที่ควรมีในการสัมภาษณ์งาน

ในก่อนหน้านี้เราได้เคยพูดถึงเรื่องข้อควรระวังในการสัมภาษณ์งานกันไปแล้ว มาวันนี้ jobthaidd ก็จะมานำเสนอ ในส่วนของบุคลิกภาพที่ดีที่จะทำให้ผู้สัมภาษณ์งานประทับใจในตัวเรากันครับ ซึ่งความประทับใจนี่แหล่ะครับที่จะช่วยให้โอกาสในการได้งานของเรามีมากขึ้นครับ
โดยเรื่องต่างๆที่จะกล่าวถึงนี้ถือเป็นเรื่องพื้นฐานมากๆ แต่หลายๆคนอาจจะหลงลืมหรือมองข้ามไป จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลยครับ

 การตรงต่อเวลา

การตรงต่อเวลาถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ในการทำงาน ซึ่งสามารถมองเห็นได้ตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์ครับ  เพราะหากผู้สมัครไม่สามารถบริหารจัดการตัวเอง ให้มาสัมภาษณ์ได้ตรงตามเวลานัดหมายได้ ในการทำงานจะสามารถทำงานให้เสร็จตามกำหนดได้อย่างไร หรือเข้าประชุมตรงเวลาได้อย่างไร ซึ่งหากบริษัทรับเอาพนักงานที่ไม่มีความตรงต่อเวลาเข้ามาทำงาน ย่อมส่งผลต่อการประสิทธิภาพการทำงานของบริษัทอย่างแน่นอน  

เพราะฉะนั้นเมื่อเรามีนัดสัมภาษณ์งาน ควรเผื่อเวลาสำหรับการเดินทาง ในส่วนของรถติด หลงทาง หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดอื่น ๆ ไว้ด้วย เพื่อที่จะให้เราสามารถไปสัมภาษณ์ได้ตามเวลานัดหมาย ซึ่งการไปถึงก่อนเวลานัดหมาย จะทำให้ได้มีเวลาพักผ่อน และเตรียมตัวก่อนการสัมภาษณ์  

และหากเรามีความจำเป็นจริง ๆ ที่ทำให้ไม่สามารถไปทันเวลานัดหมายหรืออาจะต้องเลื่อนนัดหมายออกไป  เราจะต้องโทรศัพท์ไปแจ้งผู้สัมภาษณ์ว่าเราขอไปสายกว่าเวลานัด พร้อมอธิบายเหตุผลและความจำเป็นนั้นด้วย

 การเตรียมความพร้อมก่อนการสัมภาษณ์งาน

เราควรที่จะมีการเตรียมตัวและเตรียมพร้อมก่อนการไปสัมภาษณ์งานทุกครั้ง โดยศึกษารายละเอียดของงานที่เราสมัคร ประวัติบริษัท เป็นต้น  เมื่อถึงช่วงเวลาสัมภาษณ์ ก็ไม่ควรลืมที่จะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับรูปแบบในการทำงาน หรือข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวกับบริษัท เพราะการสอบถามจะทำให้ผู้สัมภาษณ์รู้ได้ว่า เรามีการเตรียมพร้อมมาจากบ้าน ซึ่งทำให้เกิดความประทับใจในตัวเราได้นั้นเอง

 การวางตัวให้เหมาะสมในระหว่างสัมภาษณ์

ในการสัมภาษณ์งานนั้น  เราควรวางตัวให้เหมาะสม ไม่ควรทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมและไม่สุภาพ เช่น ล้วง แคะ แกะ เกา หรือแสดงความเป็นกันเองกับผู้สัมภาษณ์มากเกินไป จนถูกมองว่าไม่มีมารยาทและล้ำเส้นจนเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้มีการตัดสินใจ ไม่รับเราเข้าทำงาน เพราะมองว่าเราอาจจะให้เรื่องส่วนตัวเข้ามาเบียดบังเรื่องงานก็เป็นได้  ดังนั้นเราควรวางตัวให้เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นการพูด หรือการกระทำใด ๆ ก็ตาม

 การพูดถึงตัวอย่างเพื่อสนับสนุนในสิ่งที่พูดขณะสัมภาษณ์  

ในกรณีที่มีการพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์งานหรือในเรื่องต่างๆนั้น ผู้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่หวังที่จะได้รับคำอธิบายเกี่ยวกับประสบการณ์นั้ัน ๆ ด้วย และเราควรยกตัวอย่างเพื่อสนับสนุนให้ชัดเจน เช่น การวางแผนงาน การปฏิบัติงาน เป็นต้น และไม่ลืมที่จะพูดถึง ผลลัพธ์ว่าประสบความสำเร็จอย่างไรหรือมีผลกระทบอะไรอย่างไรบ้าง  

กรณีเราไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนั้น ๆ เราอาจจะพูดถึงประสบการณ์ที่เราเคยทำ ที่มีความใกล้เคียงกับประสบการณ์ที่พูดถึง หรือหากไม่มีประสบการณ์ที่ใกล้เคียง เราอาจจะบอกกับผู้สัมภาษณ์ ให้รู้ถึงแนวความคิด หรือทักษะที่เราอยากจะมีเพิ่มเติม เพื่อที่จะนำมาใช้กับประสบการณ์ที่พูดถึง เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราสนใจงานนี้จริง ๆ  

 ทัศนคติที่ดีต่อการทำงาน

ผู้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่จะมองหาผู้สมัครที่มีทัศนคติที่สอดคล้องกับองค์กร เช่น การทำงานแบบทีมเวิร์ก ทัศนคติต่อการทำงาน ทัศนคติต่อเพื่อนร่วมงาน ทัศนคติการคิดบวก เป็นต้น และอาจจะรวมถึงทัศนคติต่องานที่ไม่ใช่งานในหน้าที่โดยตรงของเราเอง เพื่อให้ทีมของเราประสบความสำเร็จ มากกว่าคนที่สนใจแต่งานของตัวเอง ไม่สนใจเพื่อนร่วมงาน ซึ่งขึ้นอยู่กับทัศนคติขององค์กรแต่ละที่ครับ 

จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์มองหา นอกจากเรื่องของความเก่งและประสบการณ์ในการทำงานแล้ว ยังรวมถึงบุคลิก ความคิด และทัศนคติของเรา จากที่สัมภาษณ์มาพิจารณาอีกด้วย ว่าสอดคล้องกับคุณสมบัติที่หาอยู่หรือไม่ และมีความน่าสนใจที่จะดึงมาร่วมงานด้วยไหม ซึ่งไม่ต้องกังวลครับ ขอให้ทำให้ดีที่สุดครับ แล้วโอกาสจะเป็นของเราเองครับ

ขอบคุณเนื้อหาดีดีจาก " masii.co.th "   เรียบเรียงโดยทีมงาน @ Jobthaidd.com