อดีต ส.ส.ปชป.สุดเอือมผู้ว่าการ กปภ.ปล่อยโกงซ้ำซากทั้งที่เปิดช่องให้ตรวจสอบ จี้ “บิ๊กป๊อก” เร่งแก้ระเบียบการประปา หลังเอาผิด พนง.เกษียณไม่ได้ พร้อมเสนอปลด 3 หัวหน้าพัสดุขอนแก่น หลังพบสามโครงการฉาว ยินดีหอบหลักฐานให้ “ประยุทธ์” โยกคนในการประปาเข้ากรุ ตาม ม.44 ไม่ต่ำกว่า 20 คน  
    

       วันนี้ (27 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 27 พ.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงจากที่ได้หยุดการแถลงข่าวเปิดโปรงการทุจริตของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ประมาณตลอด 2 เดือนเพื่อเปิดโอกาสให้นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการ กปภ.ได้ตรวจสอบและแก้ปัญหาต่างๆ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า มีแต่การบอกว่ากำลังตรวจสอบและทำกิจกรรมใช้เงิน 2.3 แสนบาท เช็ดกระจกให้สะอาดเพื่อให้เห็นว่าเป็นองค์กรที่โปร่งใส แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น ล่าสุดตนได้เดินทางไปตรวจสอบโครงการที่จังหวัดขอนแก่น คือ 1. โครงโรงสูบน้ำหนองหิน วงเงินจำนวน 44.6 ล้านบาท ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการหอดูดาวโดยมีสัญญาจัดทำวันที่ 7 ก.ย. 2554 - 3 ก.พ. 2555 มีการส่งมอบงานในเดือน ก.ย. 2555 โดยนายสมเกียรติ ภิริยะกากูล ผู้อำนวยการ กปภ.เขต 6 ในขณะนั้นเป็นประธานตรวจงาน แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีการสูบน้ำเลย เมื่อทำการตรวจสอบมีการอ้างถึงระเบียบของ กปภ.ที่ระบุว่า บุคคลที่เกษียณไม่ถือเป็นพนักงานเอาผิดไม่ได้ และเมื่อเห็นว่าจะมีการเอาผิดก็หาทางแก้ไขโดยลดระดับท่อสูบน้ำหรือเปลี่ยนขนาดปั๊มน้ำให้มีแรงสูบมากขึ้นที่จะต้องมีงบเพิ่มจำนวน 24 ล้านบาท
       
       2. โรงสูบน้ำโกทา 3 วงเงินจำนวน 52 ล้านบาท มีการวางเงินประกันสัญญา 2 ปี 2.6ล้านบาท โดยบริษัทเพชรรวมสานส์ เริ่มก่อสร้าง วันที่ 3 มิ.ย. 2555 - 17 มิ.ย. 2556 แต่มีการส่งมอบงานวันที่ 31 เม.ย. 2558 ซึ่งรับงานเพียงไม่กี่วันอาคารโรงสูบเริ่มมีปัญหา เช่น เสาเอียง ตึกร้าวเพราะดินทรุดดึงลงแม่น้ำ มีการเรียกร้องไปยังบริษัทมาแก้ไขเพราะยังอยู่ในประกัน ถึง 3 ครั้ง แต่บริษัทกลับนิ่งเฉย ตนตรวจพบว่าเป็นเพราะมีการคืนหนังสือสัญญาค้ำประกันไปให้บริษัทก่อนที่จะมีการส่งมอบงานตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. 2557 จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบริษัทจึงไม่มาแก้ไขซ่อมให้ และยังพบว่ามีการพยายามให้พนักงานบัญชีซึ่งมีหน้าที่คุมทะเบียนเอกสารเป็นผู้รับผิดเพียงคนเดียว หากโดนไล่ออกก็จะมีการทำเรื่องรับกลับเข้ามาทำงานใหม่ ตนได้พูดคุยกับพนักงานคนดังกล่าวขอให้ปฏิเสธ เพราะถึงแม้จะรับผิดไปคนเดียวก็ทำไม่ได้เพราะหนังสือสัญญาจะถูกเก็บไว้ในตู้เซฟ เวลาคืนต้องเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดถึงจะเปิดตู้เซฟนั้นได้ นอกจากนี้ยังมีความพยายามขอประกวดราคาใหม่เพื่อปรับซ่อมแซมอีก 2.05 ล้านบาท แต่ผู้ว่าฯ สั่งให้ยกเลิกโดยให้ไปไล่บี้กับพนักงานที่คุมเอกสารแทน
               นายวิลาศกล่าวว่า 3. โครงการโมบายแพลนต์ ที่ กปภ.ใช้ก่อสร้างผลิตน้ำประปาทั้งหมด ปกติควรใช้แบบคอนกรีต แต่กลับใช้แบบเหล็กเชื่อมทำให้เกิดปัญหาผุพังเพราะคลอรีนกัด ล่าสุดที่ขอนแก่นพบว่าใช้งบจำนวน 32 ล้านบาท ก่อสร้างโมบายแพลนต์ แต่ต้องหยุดใช้เก็บเป็นสุสานมานาน 7 ปีแล้ว และมีการยกมาตั้งที่อำเภอพล และจะขอใช้งบอีกจำนวน 47 ล้าบบาท โดยอ้างว่าเพราะแม่น้ำชีมีความเค็มต้องใช้เครื่องกรองน้ำเค็ม หรือ RO 15 ล้านบาท ตนสงสัยว่าถ้าเช่นนั้นก็ควรก่อสร้างใหม่แทนไปเลย จะยกของเก่าที่ใช้ไม่ได้มาทำไม อีกทั้งเครื่องกรองน้ำเค็มต้องใช้กำลังไฟฟ้าจำนวนมากซึ่ง ผอ.เขต 6 ได้คุยกับลูกน้องแล้วว่ามีปัญหามากแต่ก็ไม่คัดค้าน
       
       “สาเหตุใหญ่ที่ทำให้ กปภ.ขาดทุนมากสุดหลายหมื่นล้านบาท เพราะการใช้โมบายแพลนต์เหล็กเกือบทั้งประเทศ โดยอ้างว่าเพื่อสะดวกรวดเร็ว ถึงเวลาแล้วที่ควรจะยกเลิก เพราะมีอายุใช้งานแค่ 5 ปี แพงกว่าคอนกรีต 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ กปภ.มักจะรอให้น้ำขาดแคลนน้ำเพื่อเป็นข้ออ้างทำหนังสือขอทำโมบายแพลนต์เหล็ก โดยมี 2 บริษัทใหญ่ที่ผูกขาด คือ บริษัท ล็อกซเล่ย์ และบริษัท นิธินัฐกร ราคาถึงได้แพง” นายวิลาศกล่าว
       
       นายวิลาศกล่าวต่อว่า ขอฝากไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้รีบแก้ระเบียบของการประปาที่ให้พนักงานเกษียณไม่ได้เป็นพนักงานเอาผิดไม่ได้โดยด่วน และแก้ระเบียบการประปาว่าด้วยการโยกย้ายและการหมุนเวียน พ.ศ. 2544 ที่ระบุว่าตำแหน่งหัวหน้างานขึ้นไปให้อยู่ไม่เกิน 4 ปี เว้นแต่มีความจำเป็นกับหน่วยงานนั้นๆ ให้อยู่ต่อได้ ซึ่งการทุจริต หรือการฮั้ว ส่วนใหญ่มาจากระดับ ผอ.เขต และหัวหน้าพัสดุเขตเป็นหลัก ดังนั้นตนขอให้ช่วยไปจัดการกับหัวหน้าพัสดุเขต 3 คน คือ นายทรงพล ผดุงถิ่น หัวหน้างานพัสดุ 8 ได้รับการแต่งตั้งปี 21 มี.ค. 2548 จนถึงปัจจุบัน 11 ปี, นายชุมพล วงศ์ศิลปอุดม นักบริหารงานพัสดุ 6 แต่งตั้งปี 2553 และนายคมกริช คมขาว หัวหน้า ผอ.ขอนแก่น แต่ตั้งปี 2552 โดยตามระเบียบระบุว่า ถ้าจำเป็นต้องอยู่เกิน 4 ปี ต้องทำรายงานเหตุผลเพื่อให้ผู้ว่าฯ อนุมัติ ตนจึงอยากเห็นรายงานดังกล่าวว่าเพราะอะไรบุคคลทั้งจึงอยู่ในตำแหน่งได้ยาวนานเช่นนี้
       
       “ที่นายกฯ มีคำสั่งพิเศษ 68/59 ตั้งตำแหน่งพิเศษ 50 ตำแหน่ง เพื่อรองรับบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริตในรัฐวิสากิจ ผมคิดว่าควรกันไว้ให้คนในการประปาไม่ต่ำกว่า 20 คน ถ้านายกฯ ต้องการ ผมมีรายชื่อและหลักฐาน และพร้อมที่จะเอาไปยื่นให้ท่าน เพราะตั้งแต่ทำงานตรวจสอบการทุจริตมาเป็น 100 องค์กร ไม่เคยเห็นองค์กรไหนมีการทุจริตมากมายเท่าองค์กรนี้ โดยเฉพาะบอร์ดการประปาที่หมดอายุไปนานแล้ว แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยังดึงไว้ไม่แต่งตั้งใหม่ กลับปล่อยให้คนพวกนี้ทำองค์กรเสียหายอยู่ได้ รวมถึงผู้ว่าการประปาที่ผมให้โอกาสมาครบ 6 เดือนแล้ว แต่ไม่เห็นมีอะไรที่ชัดเจนจึงขอให้ท่านประเมินตนเองก่อนที่จะมีคนอื่นประเมิน” นายวิลาศกล่าว 

ขอบคุณเนื้อข่าวจาก @ ผู้จัดการ Online  วันที่ ​27 พฤศจิกายน 2559 15:50 น. (แก้ไขล่าสุด 27 พฤศจิกายน 2559 16:53 น.)