ชาวขอนแก่นแชร์ภาพเสาไฟฟ้าตั้งอยู่กลางถนนในหมู่บ้าน ดอนบม อ.เมืองขอนแก่น หลังทางเทศบาลเมืองเก่ามีการขยายผิดการจราจร ทำถนนเทคอนกรีต แต่ไม่ย้ายเสาไฟฟ้าออก ยังตั้งโด่กล่างถนน 3 ต้น อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมาย้ายออกไป...

จากที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ 'ผู้บ่าวอีสาน หัวใจใกล้ริมโขง' แชร์ภาพเสาไฟฟ้าตั้งอยู่กลางถนนในหมู่บ้านดอนบม พร้อมข้อความระบุว่า ฝากถามความรับผิดชอบหน่อยครับ.เกือบขับรถชนเสาไฟ..ถ้าจะทำถนนใหม่พร้อมขยาย.ก็ช่วยประสานกันด้วยนะ..เทคอนกรีตเสร็จเป็นเดือนล่ะ.แถมไม่เว้นช่องว่างให้เค้าย้ายเสาง่ายๆ.เททับหมดเลย.เดี๋ยวก็มีแย๊กออก.ก็พังอีก..ไฟฟ้าก็ไม่มาทำสักที..คิดได้ไงทั้งคนเทคอนกรีตและไฟฟ้า.ปล่อยให้มันอยู่แบบนี้มาเป็นเดือน..มีตั้ง3ต้น..@บ้านดอนบม ต.เมืองเก่า.อ.เมืองขอนแก่น.จ้า

ทำให้ชาวโลกออนไลน์ และผู้คนบนอินเทอร์เน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าแค่เรื่องนิดเดียวแต่กลับปล่อยปะละเลยมาเป็นเดือน ชาวบ้านต้องเสี่ยงอันตรายในการสัญจรอย่างมาก ต่อมาเมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ก.พ.ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปยังสถานที่ดังกล่าว พบว่า เสาไฟฟ้าต้นดังกล่าวอยู่ในหมู่บ้านดอนบม หมู่ 6 ริมถ.ราษฏณ์บำรุง ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น

นายวิระศักดิ์ พลทองสถิต อายุ 53 ปี ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่หลังเสาไฟฟ้าดังกล่าว กล่าวว่า เทศบาลเมืองเก่า ได้ปรับปรุงถนนภายในหมู่บ้านในโครงการสร้างถนน คสล.เมื่อประมาณต้นเดือน ก.พ.2560 ที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านก็ดีใจที่ทางเทศบาลได้พัฒนาถนนออกให้กว้างขึ้น แต่กลับพบว่า เสาไฟฟ้าจำนวน 5 ต้น ที่ตั้งอยู่เดิม ไม่ได้มีการยกย้ายออกไป จึงได้นำสีขาวแดงมาทาที่เสาไฟฟ้าไว้ เพื่อให้ผู้ที่สัญจรผ่านไปผ่านมา ได้มองเห็นและระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้มายกเสาไฟฟ้าออกไปแล้วจำนวน 3 ต้น ทำให้มีหลุมกลางถนน ยังคงเหลืออีก 2 ต้น ที่มีทั้งสายเคเบิล สายอินเตอร์เน็ต และสายโทรศัพท์ของผู้ให้บริการโครงข่ายข่ายต่างๆอีกจำนวนมาก ห้อยระโยงมองดูแล้วน่ากลัว ทั้งนี้ชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปผ่านมาก็กลัวจะเกิดอันตรายอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขโดยเร็ว


ด้าน นายสมรักษ์ ชำนาญพงษ์ อายุ 51 ปี มีหอพักอยู่ใกล้กับเสาไฟฟ้าทั้ง 2 ต้นนี้ กล่าวว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาจัดการแก้ไขให้เรียบร้อย เพราะถนนสายนี้ มีทั้งรถโดยสารนักเรียน รถจักรยานยนต์ของนักเรียนและประชาชนทั่วไป สัญจรจำนวนมากทั้งในช่วงเช้าและช่วงเย็น หวั่นว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นสักวัน และโดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน แม้ว่าจะมีไฟสว่างก็ตาม แม้แต่ตนเองที่อยู่ใกล้กับเสาไฟยังเกือบขี่รถจักรยานยนต์ชนเสาไฟมาหลายครั้งแล้ว.

ขอบคุณข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/870337