สำหรับ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์วัฒนกิจ ได้บายในรอบแรก ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ไปรอพบกับผู้ชนะระหว่าง วู ธิ ดอง จากเวียดนาม กับ ลีเดน ไคร จากกัมพูชา ซึ่ง พาณิภัค การีนตีเหรียญทองแดงไว้ในมือเรียบร้อยแล้วจากผลดังกล่าวทำให้ ผ่าน 36 นัดเท่ากัน อาร์เซนอล หยุดอยู่ที่ 66 คะแนน รั้งอันดับ 4 ตารางส่วน สเปอร์ เก็บเพิ่มเป็น 65 คะแนนต้องฟาดฟันแย่งชิงท็อปโฟร์กันต่อใน 2 แมตช์สุดท้ายของฤดูกาล
สำหรับทีมชาติไทย ประเดิมสนามนัดแรก ด้วยการตบเอาชนะ ฟิลิปปินส์ 3-0 เซ็ต มี 3 คะแนน คณะที่ อินโดนีเซีย ลงสนาม 2 นัด ชนะ 1 แพ้ 1 มี 3 คะแนนเท่ากัน เกมนี้ “ โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนสาวไทย ส่งผู้เล่นประกอบด้วย พรพรรณ เกิดปราชญ์, จรัสพร บรรดาศักดิ์, หัตถยา บำรุงสุข, พิมพิชยา ก๊กรัมย์, ชัชชุอร โมกศรี, อัจฉราพร คงยศ และมี ปิยะนุช แป้นน้อย และ สุพัตรา ไพโรจน์ เป็นตัวรับอิสระ
สำหรับการแข่งขันครอสคันทรี รีเลย์ แต่ละทีมจะมีนักปั่นชาย 2 คน หญิง 2 คน โดยผู้ฝึกสอนจะวางแผนให้นักปั่นคนใดลงแข่งขันก่อนก็ได้ ซึ่งทีมไทยส่ง “โตมร” พูนศิริ ลงปั่นเป็นไม้แรก ตามมาด้วย “พลอย” วรินทร เป็นไม้ที่ 2 จากนั้น “ไก่” ส.ท.หญิง ศุภักษร เป็นไม้ที่ 3 และ “โดด” ส.อ.กีรติ เป็นตัวทีเด็ดไม้สุดท้าย ผลปรากฏว่า ทีมเสือภูเขาไทยเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลา 1.24.54 ชั่วโมง ได้เหรียญทองแดง ส่วนเหรียญทองเป็นของทีมมาเลเซีย เวลา 1.23.14 ชั่วโมง และเหรียญเงิน “เจ้าภาพ” เวียดนาม เวลา 1.23.48 ชั่วโมง ขณะที่เวลาต่อรอบ ปรากฏว่า ส.อ.กีรติ ทำเวลาได้ดีที่สุดในบรรดานักแข่ง 20 คน ด้วยเวลา 17.49 นาทีสรุปผลงานของทีมเสือภูเขาไทย ได้ 1 เหรียญทองจาก นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ (ดาวน์ฮิลชาย), 1 เหรียญเงินจาก จ่าอากาศโทหญิง วิภาวี ดีคาบาเลส (ดาวน์ฮิลหญิง) และ 1 เหรียญทองแดงจาก ครอสคันทรี ทีมรีเลย์สรุปทีมตะกร้อทีมชุดชายของไทยเอาชนะไป 3-0 ทีม ทำให้ไทย จ่อคว้าแชมป์ซีเกมส์ เป็นสมัยที่ 18 และเพิ่มสถิติ ตะกร้อทีมชุดไทยไม่แพ้มาเลเซีย มา 29 ปีแล้ว
โดย นายวินิจ เปิดเผยว่า “ล่าสุดตอนนี้การปรับปรุงสถานที่แล้วเสร็จไป 70 เปอร์เซ็นแล้ว อาทิ สนามหญ้าของราชมังคลากีฬาสถาน ล็อคเกอร์ห้องแต่งตัว รวมไปถึงอัฒจันทร์ อุโมงค์ทางเข้าสนาม ที่ออกแบบให้มีบรรยากาศที่คล้ายกับสนามกีฬาในประเทศอังกฤษมากที่สุด หรือแม้กระทั่งระบบความปลอดภัยของทั้งผู้แข่งและผู้ชม เพื่ออรรถรสในการรับชมอย่างเข้มข้น รับรองว่า สนุก ยิ่งใหญ่ สมการรอคอยอย่างแน่นอนจนล่าสุดดาวเตะวัย 28 ปีได้โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าเขาจะอำลาทัพ เบียงโคเนรี แน่นอนแล้วหลังจบฤดูกาลนี้ เนื่องจากสัญญาของเขากับทีมจะหมดลงไป วันที่ 16 พ.ค. จะเป็นนัดสุดท้ายของผมกับเสื้อตัวนี้ มันยากที่จะจินตนาการ แต่มันจะเป็นการอำลาครั้งสุดท้ายของเรา มันจะไม่ง่าย แต่ผมจะเข้าสู่สนามด้วยรอยยิ้ม และเงยหน้าขึ้นโดยรู้ว่าผมได้ให้ทุกอย่างเพื่อคุณ เป็นการยากที่จะหาคำที่เหมาะสมมาทักทาย มีช่วงเวลาที่นี่หลายปี และหลายอารมณ์ที่เกี่ยวข้องรวมกัน ผมคิดว่าเราจะอยู่ด้วยกันไปอีกหลายปี แต่โชคชะตาทำให้เราอยู่บนเส้นทางที่แตกต่างกัน ผมจะไม่มีวันลืมทุกสิ่งที่คุณทำให้ผมได้รับประสบการณ์ ทุกเกม ทุกเป้าหมาย ผมเติบโตขึ้นมากับคุณ ผมเรียนรู้ ผมใช้ชีวิต และมีความฝัน